ผลิตภัณฑ์น้ำยาประสานโพลิเมอร์ ไซบีตัน-SCI B TON : เป็นน้ำยาประสานที่ใช้ร่วมกับวัสดุดินหรือวัสดุอื่นๆ ที่นำมารวมกันในพื้นที่
ผสมกับปูนซีเมนต์พอร์ตแลนด์ประเภท 1 เพื่อเป็นการเพิ่มคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างชั้นพื้นทางและชั้นรองพื้นทาง ซึ่งจะช่วยยืดอายุ
การใช้งานของถนนได้จากถนนปกติ (CONVENTIONAL ROAD) ที่ก่อสร้างด้วยชั้นดินลูกรังบดอัดและชั้นหินคลุกบดอัด ซึ่งเมื่อใช้ SCI B TON
ร่วมกับปูนซีเมนต์พอร์ตแลนด์แล้ว จะได้อายุการใช้งานได้นานกว่าถึง 2-3 เท่า จากถนนหินคลุกบดอัด เนื่องจาก SCI B TON เป็นเทคโนโลยีนาโน
ทำหน้าที่เคลือบผิววัสดุและยึดเกาะกันของวัสดุที่นำมาใช้ เมื่อมีการใช้งานของรถต่างๆ โดยเฉพาะรถบรรทุก จะสามารถแบกรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
รวมทั้งเมื่อวัสดุยึดเกาะกันได้ดีแล้ว สามารถกันน้ำซึมผ่านมาทำลายโครงสร้างของถนนได้อีกด้วย
เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาถนนทรุดตัว เป็นหลุมบ่อ และถนนแตกร้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการยกระดับของถนนที่จะรองรับ
ความเจริญในอนาคต รวมทั้งยกระดับความเป็นอยู่ของชาวบ้านและผู้สัญจรในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน
ผลิตภัณฑ์น้ำยาประสานโพลิเมอร์ ไซบีตัน-SCI B TON : เป็นน้ำยาประสานที่ใช้ร่วมกับวัสดุดินหรือวัสดุอื่นๆ ที่นำมารวมกันในพื้นที่
ผสมกับปูนซีเมนต์พอร์ตแลนด์ประเภท 1 เพื่อเป็นการเพิ่มคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างชั้นพื้นทางและชั้นรองพื้นทาง ซึ่งจะช่วยยืดอายุ
การใช้งานของถนนได้จากถนนปกติ (CONVENTIONAL ROAD) ที่ก่อสร้างด้วยชั้นดินลูกรังบดอัดและชั้นหินคลุกบดอัด ซึ่งเมื่อใช้ SCI B TON
ร่วมกับปูนซีเมนต์พอร์ตแลนด์แล้ว จะได้อายุการใช้งานได้นานกว่าถึง 2-3 เท่า จากถนนหินคลุกบดอัด เนื่องจาก SCI B TON เป็นเทคโนโลยีนาโน
ทำหน้าที่เคลือบผิววัสดุและยึดเกาะกันของวัสดุที่นำมาใช้ เมื่อมีการใช้งานของรถต่างๆ โดยเฉพาะรถบรรทุก จะสามารถแบกรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
รวมทั้งเมื่อวัสดุยึดเกาะกันได้ดีแล้ว สามารถกันน้ำซึมผ่านมาทำลายโครงสร้างของถนนได้อีกด้วย
เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาถนนทรุดตัว เป็นหลุมบ่อ และถนนแตกร้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการยกระดับของถนนที่จะรองรับ
ความเจริญในอนาคต รวมทั้งยกระดับความเป็นอยู่ของชาวบ้านและผู้สัญจรในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน
ผลิตภัณฑ์น้ำยาประสานโพลิเมอร์ ไซบีตัน-SCI B TON : เป็นน้ำยาประสานที่ใช้ร่วมกับวัสดุดินหรือวัสดุอื่นๆ ที่นำมารวมกันในพื้นที่
ผสมกับปูนซีเมนต์พอร์ตแลนด์ประเภท 1 เพื่อเป็นการเพิ่มคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างชั้นพื้นทางและชั้นรองพื้นทาง ซึ่งจะช่วยยืดอายุ
การใช้งานของถนนได้จากถนนปกติ (CONVENTIONAL ROAD) ที่ก่อสร้างด้วยชั้นดินลูกรังบดอัดและชั้นหินคลุกบดอัด ซึ่งเมื่อใช้ SCI B TON
ร่วมกับปูนซีเมนต์พอร์ตแลนด์แล้ว จะได้อายุการใช้งานได้นานกว่าถึง 2-3 เท่า จากถนนหินคลุกบดอัด เนื่องจาก SCI B TON เป็นเทคโนโลยีนาโน
ทำหน้าที่เคลือบผิววัสดุและยึดเกาะกันของวัสดุที่นำมาใช้ เมื่อมีการใช้งานของรถต่างๆ โดยเฉพาะรถบรรทุก จะสามารถแบกรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
รวมทั้งเมื่อวัสดุยึดเกาะกันได้ดีแล้ว สามารถกันน้ำซึมผ่านมาทำลายโครงสร้างของถนนได้อีกด้วย
เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาถนนทรุดตัว เป็นหลุมบ่อ และถนนแตกร้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการยกระดับของถนนที่จะรองรับ
ความเจริญในอนาคต รวมทั้งยกระดับความเป็นอยู่ของชาวบ้านและผู้สัญจรในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน
ผลิตภัณฑ์น้ำยาประสานโพลิเมอร์ ไซบีตัน-SCI B TON : เป็นน้ำยาประสานที่ใช้ร่วมกับวัสดุดินหรือวัสดุอื่นๆ ที่นำมารวมกันในพื้นที่
ผสมกับปูนซีเมนต์พอร์ตแลนด์ประเภท 1 เพื่อเป็นการเพิ่มคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างชั้นพื้นทางและชั้นรองพื้นทาง ซึ่งจะช่วยยืดอายุ
การใช้งานของถนนได้จากถนนปกติ (CONVENTIONAL ROAD) ที่ก่อสร้างด้วยชั้นดินลูกรังบดอัดและชั้นหินคลุกบดอัด ซึ่งเมื่อใช้ SCI B TON
ร่วมกับปูนซีเมนต์พอร์ตแลนด์แล้ว จะได้อายุการใช้งานได้นานกว่าถึง 2-3 เท่า จากถนนหินคลุกบดอัด เนื่องจาก SCI B TON เป็นเทคโนโลยีนาโน
ทำหน้าที่เคลือบผิววัสดุและยึดเกาะกันของวัสดุที่นำมาใช้ เมื่อมีการใช้งานของรถต่างๆ โดยเฉพาะรถบรรทุก จะสามารถแบกรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
รวมทั้งเมื่อวัสดุยึดเกาะกันได้ดีแล้ว สามารถกันน้ำซึมผ่านมาทำลายโครงสร้างของถนนได้อีกด้วย
เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาถนนทรุดตัว เป็นหลุมบ่อ และถนนแตกร้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการยกระดับของถนนที่จะรองรับ
ความเจริญในอนาคต รวมทั้งยกระดับความเป็นอยู่ของชาวบ้านและผู้สัญจรในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน
เปรียบเทียบการก่อสร้างถนนปิดผิวด้วยคอนกรีต (ผิวหน้าแบบแข็ง)
และปิดผิวด้วย ASPHALTIC CONCRETE (ผิวหน้าแบบอ่อน)
เปรียบเทียบการก่อสร้างถนนปิดผิวด้วยคอนกรีต (ผิวหน้าแบบแข็ง) และปิดผิวด้วย ASPHALTIC CONCRETE (ผิวหน้าแบบอ่อน)
สามารถนำมาใช้ในการก่อสร้างชั้นพื้นทาง
และชั้นรองพื้นทางในพื้นที่ ดังนี้
สามารถนำมาใช้ในการก่อสร้างชั้นพื้นทาง และชั้นรองพื้นทางในพื้นที่ ดังนี้